สีจม (Sinking-in)
เป็นปัญหาที่พบบ่อยนะคะเวลาเขียนสีน้ำมัน โดยจะปรากฏหลังจากสีน้ำมันแห้งแล้ว สีจะมีลักษณะด้าน มันเงาไม่เท่ากัน ถ้ามีเล็กน้อยก็ถือว่าปกติไม่เป็นไร แต่ถ้ามีเยอะเกินไป จะมีผลเรื่องความสวยงามได้ เพราะเมื่อเกิดสีจม ส่วนที่มันเงาจะดูเข้มกว่าส่วนที่ด้าน ทำให้การมองเห็นน้ำหนักในภาพผิดเพี้ยนได้ค่ะ
ตัวอย่างการเกิดสีจมบริเวณสีดำ จะเห็นว่า...ส่วนที่มันเงาสีจะดูเข้มกว่าส่วนที่ด้านอย่างเห็นได้ชัด โดยภาพนี้ใช้สีดำ Ivory black เพียวๆ ซึ่งเป็นสีที่พบปัญหานี้ได้บ่อย
โดยเฉพาะภาพวาดที่ใช้สีเข้มเยอะๆ สไตล์ Low key มืดๆ แบบงานสีน้ำมันยุคบาโรค ถ้าเกิดปัญหาสีจมจะเห็นชัดกว่าภาพวาดที่เป็นสไตล์ high key ที่มีความสว่างและใช้สีอ่อน เพราะเม็ดสีเข้มเช่น สีดำ สีน้ำตาล จะเกิดการจมได้ง่ายกว่าเม็ดสีอื่น
คนวาดภาพก็ต้องการให้ผิวงานออกมาดูสม่ำเสมอ จะมันเงาทั้งภาพ หรือด้านเสมอกันทั้งภาพก็ได้ แต่ถ้าผลงานเงาบ้างด้านบ้างเยอะเกินไป ภาพจะดูกระดํากระด่าง ลดความสวยลง (ถ้าสีด้านทั้งภาพก็ไม่มีปัญหาเพราะศิลปินบางคนชอบผิวด้าน ปัญหาของสีจมคือการที่สีด้านบ้าง เงาบ้าง ไม่เท่ากันแบบเห็นได้ชัดเจนอย่างในภาพตัวอย่าง ถ้ามีเล็กน้อยสังเกตเห็นไม่ชัด ก็ยังไม่ถือว่าเป็นปัญหาสีจมค่ะ)
---
สาเหตุของการเกิดสีจมและวิธีการป้องกัน
1. พื้นผิวดูดสีมากเกินไป
การใช้ผ้าใบ cotton ราคาถูก / Gesso ไม่มีคุณภาพ จะทำให้ผ้าใบดูดสีมากเกินจนสีจมได้ เมื่อพื้นผิวดูดสีมากเกินไป สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ความสดฉ่ำของสีจะลดลง และเกิดผลได้สองกรณี กรณีแรก คือได้ภาพที่ผิวด้านสม่ำเสมอ หรือกรณีที่สอง ได้ภาพที่เกิดสีจมไปเลย
การป้องกัน :
เลือกใช้ผ้าใบที่มีคุณภาพ มีความหนา มีการรองพื้นหลายชั้น โดยผ้าใบลินินจะดูดสีน้อยกว่าผ้าใบคอตต้อน
รองพื้นผ้าใบด้วย Gesso คุณภาพดี โดยลงบางๆ หลายชั้น จะช่วยลดการดูดสีของผ้าใบได้
Oil primed canvas (ผ้าใบที่รองพื้นด้วยเชื้อน้ำมัน) จะดูดสีน้อยกว่า Acrylic primed canvas/ Universal primed canvas (ผ้าใบที่รองพื้นด้วยเชื้อน้ำ/อะคริลิก)
---
2. ใช้มีเดียมหลายชนิดปนกัน หรือใช้มีเดียมในปริมาณที่ไม่สม่ำเสมอ
มีเดียมแต่ละชนิด จะให้เอฟเฟคต่อพื้นผิวงานที่ต่างกัน เช่น
ถ้าใช้น้ำมัน Drying oil....ผิวงานจะเงา
ถ้าใช้ Alkyd......ผิวงานจะเงา กึ่งเงา
ถ้าใช้เรซิ่น ไม่ว่าจากธรรมชาติหรือสังเคราะห์......ผิวงานจะเงา
ถ้าใช้น้ำมันสน,Turpentine, OMS, Solvent......ผิวงานจะด้าน
ถ้าใช้ Wax........ผิวงานจะด้าน ถ้าใช้สีน้ำมันเพียวๆ จากหลอด.......ผิวงานจะกึ่งด้าน คล้ายเปลือกไข่ สีโปร่งแสงจะมันเงากว่าสีทึบแสง
ดังนั้นถ้าเราใช้มีเดียมหลายชนิดปนกัน และไม่วางแผนการวาดให้ดี อาจเกิดปัญหาสีจม ผิวเงาด้านไม่สม่ำเสมอขึ้นได้ และถึงจะใช้มีเดียมแค่ตัวเดียว แต่ใช้ในปริมาณที่ไม่สม่ำเสมอกันในแต่ละครั้ง ก็อาจทำให้สีจมได้เช่นกัน
การป้องกัน :
ศึกษาคุณสมบัติของมีเดียมแต่ละชนิด พยายามควบคุมการใช้มีเดียมให้สม่ำเสมอ เช่น ถ้าใช้น้ำมันลินสีดเป็นมีเดียม ให้ใช้เกรียงตีน้ำมันผสมกับสีให้เรียบร้อยก่อนใช้งาน เป็นต้น ---
3. เม็ดสีแต่ละตัว มีความมันเงาต่างกัน
โดยธรรมชาติ Pigment แต่ละตัวจะมีความมันเงาต่างกันอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น Burnt umber, Raw umber, Ivory black เมื่อแห้งแล้วจะด้าน / Pthalo green แห้งแล้วจะมันเงา เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้น สีต่างยี่ห้อกันก็มีความมันเงาต่างกันอีก เพราะสูตรการผลิตของแต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกันนั่นเอง
.
การป้องกัน :
การใช้สีน้ำมันยี่ห้อเดียวกัน ก็พอช่วยได้บ้าง ซึ่งเคยมีคนแนะนำแอดให้ใช้สีน้ำมันไม่เกิน 3 ยี่ห้อ เพื่อลดปัญหาตรงนี้ แต่เนื่องจากสันดานแอดเป็นคนชอบลอง บางทีใช้ปนกัน 10 ยี่ห้อไปเลยค่ะ จุกๆ 555 (ไม่ควรเลียนแบบนะคะ)
ต่อให้ใช้แค่ยี่ห้อเดียวก็ตาม ก็ใช้ว่าจะได้ผิวงานสม่ำเสมอเท่ากันหมด ต้องอาศัยการทดลองใช้อยู่ดี เมื่อมีประสบการณ์ลองผิดลองถูกแล้ว เรารู้ว่าสีไหนที่แห้งแล้วด้าน ก็ผสมน้ำมันเพิ่มลงไป สีไหนที่แห้งแล้วมันมากๆ เราก็ลดน้ำมันลง อะไรแบบนี้เป็นต้น
---
การเขียนภาพออกมาไม่ให้สีจม ต้องเข้าใจและคุ้นเคยกับอุปกรณ์พอสมควร แต่ถึงจะระวังแล้ว บางทีปัญหาสีจมก็ยังเกิดขึ้นได้ ซึ่งเมื่อเกิดขึ้นแล้ว เรามีวิธีแก้ปัญหาด้วยวิธีการเคลือบวานิชค่ะ (Varnishing)
การแก้ปัญหาสีจมจะใช้เคลือบชั่วคราวหรือเคลือบถาวรก็ได้ แต่ถ้าใครรอได้ แนะนำให้เคลือบวานิชถาวร โดยต้องรอให้ภาพสีน้ำมันแห้งอย่างน้อย 6 เดือนถึงหนึ่งปีก่อนถึงเคลือบได้ (ถ้าสีหนาก็รอนานกว่านั้น) เพราะเคลือบถาวรนอกจากช่วยแก้ปัญหาสีจมแล้ว ยังช่วยปกป้องภาพจากรังสียูวี มลภาวะ และช่วยยืดอายุภาพวาด ซึ่งเคลือบชั่วคราวทำตรงนี้ไม่ได้ค่ะ
#sinkingin #unevensheen #oilpainting #oilpaintingforbeginner #paintyoustudio #ปัญหาสีจม #สีจม #สีน้ำมัน #สีน้ำมันสำหรับผู้เริ่มต้น #ภาพสีน้ำมัน #ภาพเหมือนสีน้ำมัน #รับวาดภาพเหมือนสีน้ำมัน
Comments